ตะไคร้

ตะไคร้ ชื่อสามัญ Lemongrass

ตะไคร้ ชื่อวิทยาศาสตร์ Cymbopogon citratus (DC.) Stapf จัดอยู่ในวงศ์หญ้า (POACEAE หรือ GRAMINEAE)

ลักษณะ

ตะไคร้จัดเป็นพืชล้มลุกตระกูลหญ้า ใบมีลักษณะเรียวยาว ปลายใบมีขนหนาม เป็นสมุนไพรไทยชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาประกอบอาหาร โดยตะไคร้แบ่งออกเป็น 6 ชนิด ได้แก่ ตะไคร้หอม ตะไคร้กอ ตะไคร้ต้น ตะไคร้น้ำ ตะไคร้หางนาค และตะไคร้หางสิงห์ ซึ่งเป็นสมุนไพรไทยที่นิยมปลูกทั่วไปในบ้านเรา โดยมีถื่นกำเนิดในประเทศอินเดีย อินโดนีเซีย พม่า ศรีลังกา และไทย

ตะไคร้เป็นทั้งยารักษาโรคและยังมีวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย เช่น วิตามินเอ ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ฯลฯ

สรรพคุณของตะไคร้

  1. มีส่วนช่วยในการขับเหงื่อ

  2. เป็นยาบำรุงธาตุไฟให้เจริญ (ต้นตะไคร้)

  3. มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงธาตุ ช่วยในการเจริญอาหาร

  4. ช่วยแก้อาการเบื่ออาหาร (ต้น)

  5. สารสกัดจากตะไคร้มีส่วนช่วยในการป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

  6. แก้และบรรเทาอาการหวัด อาการไอ

  7. ช่วยรักษาอาการไข้ (ใบสด)

  8. ใช้เป็นยาแก้ไข้เหนือ (ราก)

  9. น้ำมันหอมระเหยของใบตะไคร้สามารถบรรเทาอาการปวดได้

  10. ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ

  11. ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง (ใบสด)

  12. ใช้เป็นยาแก้อาเจียนหากนำไปใช้ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ (หัวตะไคร้)

  13. ช่่วยแก้อาการกษัยเส้นและแก้ลมใบ (หัวตะไคร้)

  14. รักษาโรคหอบหืดด้วยการใช้ต้นตะไคร้

  15. ช่วยแก้อาการเสียดแน่นแสบบริเวณหน้าอก (ราก)

  16. ใช้เป็นยาแก้อาการปวดท้องและอาการท้องเสีย (ราก)

  17. ช่วยแก้และบรรเทาอาการปวดท้อง

  18. ช่วยรักษาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ (หัวตะไคร้)

  19. ช่วยในการขับน้ำดีมาช่วยในการย่อยอาหาร

  20. น้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้มีส่วนช่วยลดการบีบตัวของลำไส้ได้

  21. มีฤทธิ์ช่วยในการขับปัสสาวะ

  22. ช่วยแก้อาการปัสสาวะพิการและรักษาโรคนิ่ว (หัวตะไคร้)

  23. ช่วยแก้อาการขัดเบา (หัวตะไคร้)

  24. ใช้เป็นยาแก้ขับลม (ต้น)

  25. ช่วยรักษาอหิวาตกโรค

  26. ช่วยแก้ลมอัมพาต (หัวตะไคร้)

  27. ใช้เป็นยารักษาเกลื้อน (หัวตะไคร้)

  28. น้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้ สามารถช่วยต่อต้านเชื้อราบนผิวหนังได้เป็นอย่างดี

  29. ช่วยแก้โรคหนองใน หากนำไปผสมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ

  30. ประโยชน์ของตะไคร้

  31. นำมาใช้ทำเป็นน้ำตะไคร้หอม น้ำตะไคร้ใบเตย ช่วยดับร้อนแก้กระหายได้เป็นอย่างดี

  32. ช่วยในการบำรุงและรักษาสายตา

  33. มีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง

  34. มีส่วนช่วยในการบำรุงสมองและเพิ่มสมาธิ

  35. สามารถนำมาใช้ทำเป็นยานวดได้

  36. ช่วยแก้ปัญหาผมแตกปลาย (ต้น)

  37. มีฤทธิ์เป็นยาช่วยในการนอนหลับ

  38. การปลูกตะไคร้ร่วมกับผักชนิดอื่น ๆ จะช่วยป้องกันแมลงได้เป็นอย่างดี

  39. นำมาใช้เป็นส่วนประกอบของสารระงับกลิ่นต่าง ๆ

  40. ต้นตะไคร้ช่วยดับกลิ่นคาวหรือกลิ่นคาวของปลาได้เป็นอย่างดี

  41. กลิ่นหอมของตะไคร้สามารถช่วยไล่ยุงและกำจัดยุงได้เป็นอย่างดี

  42. เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์จำพวกยากันยุงชนิดต่าง ๆ เช่น ยากันยุงตะไคร้หอม

  43. สามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลายชนิด เช่น เครื่องปรุงอบแห้ง ตะไคร้แห้งสำหรับชงดื่ม นำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย เป็นต้น

  44. มักนิยมนำมาใช้ในการประกอบอาหารหลายชนิด เช่น ต้มยำ และอาหารไทยอื่น ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติ

  45. วิธีทําน้ําตะไคร้หอม

  46. เตรียมวัตถุดิบดังนี้ ตะไคร้ 1 ต้น / น้ำเชื่อม 15 กรัม / น้ำเปล่า 240 กรัม

  47. ล้างตะไคร้ให้สะอาด แล้วนำมาหั่นเป็นท่อน ทุบให้แตก

  48. ใส่ลงหม้อต้มกับน้ำให้เดือด จนกระทั่งน้ำตะไคร้ออกมาปนกับน้ำจนเป็นสีเขียว

  49. รอสักครู่แล้วยกลง หลังจากนั้นกรองเอาตะไคร้ออกแล้วเติมน้ำเชื่อมให้ได้รสตามพอใจ

วิธีทําน้ําตะไคร้ใบเตย

การทําน้ําตะไคร้ใบเตยนั้นอย่างแรกให้เตรียมวัตถุดิบดังนี้ ตะไคร้ 2 ต้น / ใบเตย 3 ใบ / น้ำ 1-2 ลิตร / น้ำตาลแดง 2 ช้อนชา (จะใส่หรือไม่ก็ได้)

นำตะไคร้มาทุบให้แหลกพอประมาณ แล้วใช้ใบเตยมัดตะไคร้ไว้ให้เป็นก้อน

ใส่ตะไคร้และใบเตยลงไปในหม้อแล้วเติมน้ำ 1 ถึง 2 ลิตร แล้วต้มให้เดือดสักประมาณ 5 นาที เป็นอันเสร็จสำหรับวิธีการทําน้ํา ตะไคร้

โดยตะไคร้และใบเตยชุดเดียวกัน สามารถเติมน้ำต้มใหม่ได้ 2-3 รอบ แต่รสอาจจืดจางลงไปบ้าง นำมาดื่มแทนน้ำช่วยเพิ่มความสดชื่น แถมช่วยบำรุงสุขภาพอีกด้วย

แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี, กระทรวงสาธารณสุข

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)