โหระพา
โหระพา ชื่อสามัญ Sweet basil, Thai basil
โหระพา ชื่อวิทยาศาสตร์ Ocimum basilicum L. จัดอยู่ในวงศ์กะเพรา (LAMIACEAE หรือ LABIATAE)
มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชียและแอฟริกา เป็นพืชพื้นเมืองของอินเดีย แต่แพร่หลายในเอเชียและตะวันตก โหระพาเป็นพืชสมุนไพรที่มีกลิ่นหอม นิยมอย่างมากในการนำมาประกอบอาหารและแต่งกลิ่นของรสชาติให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น
ลักษณะ
โหระพา สรรพคุณนั้นมีมากมายแต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่ามันมีประโยชน์อย่างไร โดยโหระพา 1 ขีด มีเบต้าแคโรทีนสูงถึง 452.16 ไมโครกรัม ซึ่งสามารถช่วยป้องกันโรคหัวใจ และยังมีวิตามินและแร่ธาตุอื่น ๆ ด้วย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก รวมไปถึงคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน เป็นต้น โดยสรรพคุณของโหระพาที่เรานำมาใช้ในการรักษาโรคหลัก ๆ แล้วจะใช้แค่ใบและน้ำมันสกัดจากใบโหระพาเป็นหลัก แต่ส่วนอื่น ๆ ก็ใช้ได้เหมือนกันไม่ว่าจะเป็น ราก ลำต้น ก็ถือว่ามีประโยชน์แทบทั้งสิ้น แต่น้ำมันโหระพาอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้หากใช้กับหญิงตั้งครรภ์ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยง
สรรพคุณของโหระพา
ใบสดโหระพาใช้เป็นน้ำมันหอมระเหย
ช่วยป้องกันความเสียหายในร่างกายของเราจากการทำลายของอนุมูลอิสระ
ช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
มีส่วนในการช่วยป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด
มีฤทธิ์ในการช่วยลดคอเลสเตอรอลและแผ่นคราบพลัคในกระแสเลือด
มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
ช่วยขับหัวสิวและต้านการเจริญเติบโตของเชื้อสิว
ช่วยในการเจริญอาหาร
ใช้เป็นยาพอกเพื่อดูดซับสารพิษออกจากผิวหนังได้
ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมสำหรับมารดาที่ให้นมบุตร ด้วยการนำใบมาต้มกับน้ำนมราชสีห์รับประทาน
มีความเชื่อว่าเป็นยาบำรุงสุขภาพทางเพศได้อีกด้วย
ช่วยรักษาอาการปวดศีรษะด้วยการใช้ยอดอ่อนต้มกับน้ำ แล้วนำมาดื่มเป็นชา หรือกินเป็นผักสด
แก้อาการวิงเวียนศีรษะด้วยการนำใบมาต้มดื่ม
น้ำมันโหระพามีคุณสมบัติช่วยให้จิตใจสงบ มีสมาธิ และช่วยลดอาการซึมเศร้า
ช่วยรักษาโรคตาแดง ต้อตา มีขี้ตามาก
ช่วยแก้หวัดและช่วยในการขับเหงื่อ ด้วยการนำใบและต้นสดมาต้มเข้าด้วยกันแล้วเอาน้ำมาดื่ม
ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน ด้วยการนำใบโหระพามาคั้นเอาน้ำสดให้ได้ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำอ้อย 2 ช้อนผสมกับน้ำอุ่น แล้วนำมาดื่มวันละ 2 ครั้ง
ใช้รักษาอาการเหงือกอักเสบเป็นหนอง ด้วยการนำใบโหระพาแห้งมาบดให้เป็นผงแล้วนำมาทาในบริเวณที่อักเสบ
ใช้แก้อาการสะอึก ด้วยการนำใบโหระพาสดพร้อมขิงสดแช่ในน้ำเดือดแล้วนำมาดื่มในขณะที่ยังร้อน
ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ด้วยการนำเมล็ดแก่มาแช่น้ำให้พองเต็มที่ แล้วนำมารับประทานกับขนมหวานโดยผสมกับน้ำหวานและน้ำแข็ง
ใช้เป็นยาระบาย ด้วยการนำเมล็ดแห้งประมาณ 3-5 กรัมมาต้มน้ำดื่ม
ช่วยในการรักษาแผลในกระเพาะอาหาร เพราะไปช่วยยับยั้งฤทธิ์ของยาแอสไพรินซึ่งเป็นตัวที่ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร
ช่วยในการขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ
เมล็ดโหระพาเมื่อแช่น้ำจะพองตัวเป็นเมือก นำมากินแก้อาการบิด
น้ำมันโหระพามีคุณสมบัติแก้อาการจุกเสียดแน่นท้อง
น้ำมันหอมระเหยของใบจะช่วยในการย่อยอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ได้เป็นอย่างดี
ถ้าเด็กปวดท้อง ให้ใช้ใบโหระพา 20 ใบชงน้ำร้อนแล้วนำมาชงนมให้เด็กดื่มแทนยาขับลม
ใช้แก้อาการประจำเดือนมาไม่ปกติ
นำมาใช้เป็นยาบรรเทาอาการผึ้งต่อย
ช่วยรักษาอาการผดผื่นคัน มีน้ำเหลือง ด้วยการนำมาใบตำแล้วพอก
ช่วยแก้เด็กเป็นแผล หรือมีหนองเรื้อรัง ด้วยการใช้รากของโหระพามาเผาเป็นเถ้าแล้วนำมาพอกบริเวณบาดแผล
ช่วยแก้อาการฟกช้ำจากการกระทบกระแทก หกล้ม งูกัด ด้วยการนำมาใบตำแล้วพอก
เมล็ดเมื่อนำมาแช่น้ำจะพองเป็นเมือก นำมาใช้เป็นยาระบาย เพราะไปช่วยเพิ่มจำนวนกากอาหาร
น้ำมันโหระพาช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อไวรัส
น้ำมันโหระพาช่วยคลายการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
ช่วยรักษาอาการข้ออักเสบ แผลอักเสบด้วยการนำมาตำแล้วพอกหรือประคบ
น้ำมันโหระพาสามารถใช้ฆ่ายุง ไร และแมลงได้ ด้วยการนำต้น ใบ ราก มาตำรวมกันให้ละเอียดแล้วใส่เหล้าขาวเล็กน้อยคนให้เข้ากัน แล้วนำไปตั้งไฟแค่พอร้อน ทิ้งไว้ให้อุ่นแล้วนำมาพอกที่เข่าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที วันละ 2 ครั้ง อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้น
ช่วยในการบำบัดรักษาโรคเข่าเสื่อม
มีฤทธิ์ในการต่อต้านการอักเสบ
ใบโหระพามีกลิ่นเฉพาะใช้เป็นผักสด นำมาใช้เป็นอาหาร แต่งกลิ่นอาหาร และใช้เป็นเครื่องปรุงรสในอาหาร
น้ำมันโหระพาก็นำมาใช้ในการแต่งกลิ่นซอสมะเขือเทศ ผักดอง ลูกอม ไส้กรอก ขนมผิง หรือแม้กระทั่งเครื่องดื่ม
นำมาใช้ในการแต่งกลิ่นเครื่องสำอางบางชนิด
นำมาแปรรูปเป็นสมุนไพรไทยในรูปของโหระพาแห้ง และนำมาทำเป็นน้ำมันโหระพาช่วยลดความเครียด ลดบวม
การเตรียมดิน
ไถกลบดิน 2 รอบ แต่ละรอบตากดินนาน 5-7 วัน
ไถยกร่องแปลง ขนาดกว้าง 1.5-2 เมตร ความยาวตามความเหมาะสม
ก่อนไถยกร่อง ให้หว่านด้วยปุ๋ยคอกอัตรา 2-3 ตัน/ไร่ ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 30 กิโลกรัม/ไร่
สำหรับแปลงเพาะกล้าโหระพา ให้ไถพรวนดิน และยกร่องในขนาดเดียวกัน และหว่านปุ๋ยคอก และปุ๋ยเคมีในสัดส่วนที่ลดลงมา
การเตรียมกล้า
ทำการหว่านเมล็ดลงในแปลง ให้เมล็ดมีการกระจายตัวประมาณ 3-5 ซม.
หลังหว่านให้ใช้คราดเกลี่ยหน้าดินบางๆ แล้วคลุมด้วยฟางข้าวบางๆ
ให้รดน้ำหลังหว่านเมล็ด และรดน้ำทุกวัน วันละ 1-2 ครั้ง
เมล็ดจะเริ่มงอกภายใน 5-7 วัน หลังหว่านเมล็ด
ดูแลกล้าโหระพาจนมีความสูงได้ประมาณ 10-15 ซม. หรืออายุประมาณ 20-25 วัน ค่อยถอนกล้าย้ายปลูกลงแปลง
ก่อนถอนปลูก ให้รดน้ำก่อน 1 วัน
ขั้นตอนการปลูกโหระพา
ระยะปลูก 20-30 x20-30 ซม.
ขุดหลุมด้วยเสียมลึกประมาณ 5 ซม. หรือ ลึกให้กลบโคนต้นขึ้นมา 2-3 ซม.
หลังปลูกเสร็จ รดน้ำให้หน้าดินชุ่ม
สำหรับการปลูกโหระพาเพื่อรับประทานเองในครัวเรือนที่ปลูกเพียงไม่กี่ต้น เกษตรกรนิยมปลูกด้วยการหว่านเมล็ดในพื้นที่ว่างภายในบ้าน ด้วยการขุดพรวนดิน และกำจัดวัชพืช หลังจากนั้น จะหว่านเมล็ดจำนวนน้อยลงแปลง แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
หากเมล็ดเกิดถี่ เกษตรจะย้ายถอนกล้าไปปลูกตามที่ว่างจุดอื่น และคงเหลือต้นให้มีระยะห่าง 20-30 ซม. ไว้ นอกจากนั้น ในบางครัวเรือนมักนำกล้าที่ถอนแยกได้นำมาปลูกในกระถาง กระถางละ 1-2 ต้น ซึ่งสามารถย้ายวางได้ในทุกจุด
การใส่ปุ๋ย
หลังปลูก 7-14 วัน หรือหลังที่กล้าตั้งต้นได้ โดยให้หว่านด้วยปุ๋ยเคมีสูตร 24-12-12 อัตรา 25 กิโลกรัม/ไร่ และหว่านอีกครั้งหลังครั้งแรก 2-3 เดือน ในอัตราเดียวกัน
ให้หว่านปุ๋ยคอกร่วมด้วยกับการใส่ปุ๋ยเคมีในครั้งแรก อัตราที่ 1-2 ตัน/ไร่
การให้น้ำ
ระยะหลังปลูก 7-15 วัน จะให้น้ำทุกวัน วันละ 1-2 ครั้ง
เมื่อกล้าตั้งต้นได้จะค่อยๆลดปริมาณน้ำลง โดยจะให้ 3-5 ครั้ง/สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับฤดู และความแห้งของหน้าดิน จนถึงการเก็บเกี่ยว
การเก็บยอด และใบ
หลังจากปลูกลงแปลงแล้วประมาณ 1 เดือน ก็สามารถทยอยเก็บยอดได้
การเก็บยอดเพื่อจำหน่าย จะเก็บยอดจากกิ่งให้มีความยาวประมาณ 20-30 ซม.
การเก็บยอด ควรใช้มีดหรือกรรไกรตัด ไม่ควรใช้มือเด็ด เพราะกิ่ง และใบจะซ้ำง่าย หรือ บางครั้งอาจทำให้ต้นถอนขึ้นมาได้ แต่การเก็บเพื่อรับประทานเองไม่จำเป็นต้องใช้มีดหรือกรรไกร
ให้ทยอยเก็บจากกิ่งที่อยู่ด้านล่างก่อน และทยอยเก็บเป็นช่วงๆ
ข้อมูล
อายุ 1-2 ปี
แสง รำไร
ดิน ร่วน
ชุ่มน้ำ (1-2 ครั้ง)
ปลูก เมล็ด / ปักชำ
สูง 60-120 ซม.
เก็บเกี่ยว 50 วัน
แหล่งอ้างอิง : จากสำนักส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตร
เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)